คดีความของ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ป๊อปสตาร์วัย 27 ปี กับ เดวิด มูลเลอร์ ดีเจรุ่นใหญ่วัย 55 ปี ที่ฟ้องกันไปมา โดยมีต้นตอมาจากการกล่าวอ้างของ สวิฟท์ ว่าโดน มูลเลอร์ ล้วงกระโปรงไปจับก้น ปี 2013 ล่าสุดศาลมีคำตัดสินแล้วว่า สวิฟท์ เป็นฝ่ายชนะคดี
ต้นตอของเรื่องต้องย้อนไปเดือนมิถุนายนปี 2013 มูลเลอร์ ซึ่งเป็นดีเจชื่อดังแห่งคลื่น KYGO-FM ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปร่วมงานพบปะแฟนๆ ของ สวิฟท์ ที่มาทัวร์คอนเสิร์ตในอัลบั้ม “Red”
โดยเขาพา แชนนอน เมลเชอร์ แฟนสาวของเขา ณ ตอนนั้นไปด้วย และทั้งคู่มีโอกาสได้ถ่ายภาพร่วมกับ สวิฟท์ ซึ่งจังหวะนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหา

สวิฟท์ กล่าวหา มูลเลอร์ ว่าถลกกระโปรงของเธอ และเอามือไปจับบั้นท้ายของเธอเต็มๆ ในตอนที่กำลังถ่ายภาพกัน ทำให้เธอเรียกทีมรักษาความปลอดภัยมาจัดการพาทั้ง มูลเลอร์ และ เมลเชอร์ ออกไปจากงน และจากนั้นไม่กี่วัน มูลเลอร์ ก็โดนไล่ออกจากการทำงานที่สถานีวิทยุ KYGO-FM เนื่องจาก สวิฟท์ เอาเรื่องไปฟ้องผู้บริหารสถานี
เรื่องราวนี้บานปลายจน มูลเลอร์ ฟ้องร้อง สวิฟท์, แม่ของเธอ, แฟร้งค์ เบล โปรโมเตอร์จัดทัวร์คลื่นวิทยุ ปี 2015 เรียกร้องค่าเสียหายจากการตกงาน 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หลังจากนั้น 1 เดือนต่อมา สวิฟท์ ฟ้องกลับ ขอค่าเสียหายแบบตบหน้า “หนึ่งดอลล่าร์” เท่านั้น
ศาลยกฟ้องคำร้องของ มูลเลอร์ ไปก่อนเมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2560 จากนั้นวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2560 ก็เป็นคิวไต่สวนคำฟ้องของ สวิฟท์ ซึ่งลูกขุน 8 คน ที่เป็นผู้หญิง 6 คน และชาย 2 คนตัดสินให้เธอชนะคดี หรือพูดง่ายๆ คือลูกขุนเชื่อว่า มูลเลอร์ล้วงก้นสวิฟท์จริง และตัดสินอีกว่าสวิฟท์และแม่ ไม่ได้มีส่วนขัดขวางการทำการทำงานของมูลเลอร์แต่อย่างใด

หลังชนะคดี สวิฟท์ ก็กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า “ฉันขอขอบคุณผู้พิพากษา วิลเลี่ยม เจ. มาร์ติเนซ และคุณะลูกขุนสำหรับการพิจารณาคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฉันขอขอบคุณทีมทนายของฉัน ดั๊ก บัลดริดจ์, แดเนี่ยล โฟลี่ย์, เจย์ เชาดี้ส์ และ เคที่ ไรท์ ที่สู้เพื่อฉันและทุกๆ คนที่ไม่กล้าแสดงตัวต่อการโดนลวนลาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันขอขอบคุณทุกๆ คนที่ให้กำลังใจฉันตลอดช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา และตลอดช่วงการดำเนินคดีที่ยาวนนาน 2 ปี”
“ฉันรับรู้ถึงสิทธิพิเศษที่ฉันได้รับจากชีวิต, สังคม และความสามารถของตัวเอง ที่จะต้องแบกรับผลมหาศาลทุกอย่างจากการออกมาปกป้องตัวเองในคดีความแบบนี้ สิ่งที่ฉันหวังก็คือการได้ช่วยเหลือคนที่เสียงของพวกเขาสมควรจะถูกได้ยิน เพราะฉะนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ฉันจะบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกลวนลามทางเพศให้พวกเขาปกป้องตัวเองได้”